วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หนาวนี้....ที่เมืองไทย

          ถึงเดือนธันวาคมเมื่อไหร่ ฤดูหนาวก็เข้ามาเยือนอีกแล้วนะคะ วันนี้น้องเมย์ขอนำเสนอบทเพลงที่เหมาะกับบรรยากาศหนาวหนาวแบบนี้ให้เพื่อน ๆ ได้รับชมกัน เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศน้องเมย์มีสถานที่ ที่เหมาะกับอากาศตอนนี้ให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปสัมผัสกัน ... ช่วยกันออกไปกอดเมืองไทยให้หายหนาว...กันนะคะ
          สถานที่แรกที่น้องเมย์อยากพาเพื่อน ๆ ไปสัมผัสกับความหลากหลายของทิวทัศน์ พรรณไม้ สายน้ำ ที่ทำให้ภูกระดึงครองใจนักเดินทางผู้รักธรรมชาติทุกยุคทุกสมัย

          อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย คืออุทยานแห่งชาติที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 400 - 1,200 เมตร รูปทรงเหมือนกระดึง มีพื้นที่ราบบนยอดเขากว้างใหญ่คล้ายรูปใบบอน เป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำพอง อากาศค่อนข้างเย็นตลอดปี เปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึงวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี และปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนถึงวันที่ 30 กันยายน เพื่อให้ป่าได้คืนสภาพ

ไอคอนดุ๊กดิ๊ก ภาพเคลื่อนไหว ภาพกลิตเตอร์  icon_dukdik_44 แต่ง hi5
          บนภูกระดึงนอกเหนือจากภูมิประเทศแปลกตาด้วยทิวสนเรียงรายบนที่ราบบนยอดภูอันกว้างใหญ่แล้ว ยังมีหน้าผาอันเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่งดงามอีกหลายแห่งด้วยกัน โดยทางทิศตะวันออกมี ผานกแอ่น เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 2 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกมี ผาหล่มสัก เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจนที่สุด อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 9 กิโลเมตร เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมด้วยชะง่อนหินยื่นออกไปกับต้นสนริมผาโดยมี ผาแดง ผาเหยียบเมฆ ผานาน้อย ผาจำศีล และ ผาหมากดูก เป็นทางเลือกที่เรียงรายบนเส้นทางให้แวะชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามไม่แพ้กันอีกด้วยและด้วยความที่เป็นต้นน้ำ บนภูกระดึงจึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งน้ำอยู่มากเช่นกัน อย่าง สระแก้ว ต้นสายของลำธารสวรรค์ สระอโนดาต บึงน้ำขนาดใหญ่ จุดกำเนิดธารพระองค์ที่ไหลลงหน้าผากลายเป็น น้ำตกพระองค์ น้ำตกที่น่าสนใจบนภูกระดึง ได้แก่ น้ำตกวังกวาง ผาหินตัดขวางลำธาร ฝูงกวางมักจะลงมากินน้ำอยู่เสมอ เป็นที่มาของชื่อน้ำตก น้ำตกเพ็ญพบใหม่ เกิดจากลำธารวังกวาง หน้าหนาวจะเห็นใบเมเปิลร่วงหล่นปกคลุมผืนน้ำเป็นสีแดง น้ำตกถ้ำใหญ่ ร่มรื่นด้วยพรรณไม้ ช่วงต้นมกราคมทั่วบริเวณจะแดงฉานด้วยใบเมเปิลเกลื่อนพื้นป่า น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกขนาดเล็กบรรยากาศสวยงาม น้ำตกโผนพบ น้ำตก 8 ชั้น สูงประมาณ 30 เมตร โผน กิ่งเพชร อดีตแชมป์โลกมวยสากลคนแรกของไทยเป็นผู้ค้นพบเมื่อครั้งขึ้นไปฝึกซ้อมบนภูกระดึง น้ำตกสอเหนือ เป็นน้ำตกชั้นเดียว สูง 10 เมตร และน้ำตกสอใต้ อยู่ในลำธารสายเดียวกับน้ำตกสอเหนือ
ชมธรรมชาติที่สวยสด...ดอยอินทนนท์

          สุดยอดขุนเขาสูงสุดในสยามนามดอยอินทนนท์ งดงามด้วยพรรณพฤกษาและบรรยากาศเทือกดอยหนาวเย็นดึงดูดใจ  อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 6 ของประเทศไทย มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 482 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม อำเภอจอมทอง และอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ สภาพเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นส่วนหนึ่งของแนวเขตเทือกเขาถนนธงชัย ที่ทอดตัวแนวเหนือ-ใต้ ต่อเนื่องมาจากเทือกเขาหิมาลัยในประเทศเนปาล มีความสูงตั้งแต่ 400-2,565 เมตร จากกระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยมียอดดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย

ไอคอนดุ๊กดิ๊ก ภาพเคลื่อนไหว ภาพกลิตเตอร์  icon_dukdik_165 แต่ง hi5
          แต่เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อว่า "ดอยหลวง" หรือ "ดอยอ่างกา" ในสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์เป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ทรงเห็นความสำคัญของป่าไม้เป็นอันมาก โดยเฉพาะบนดอยหลวง ถึงกับทรงมีรับสั่งว่าหากพระองค์สิ้นพระชนม์ให้แล่งเอาพระอัฐิส่วนหนึ่งไปบรรจุไว้ ภายหลังจึงได้สร้างสถูปบรรจุพระอัฐิของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ไว้บนยอดดอยหลวง และเปลี่ยนชื่อเป็น "ดอยอินทนนท์" ตามพระนามแต่นั้นมา  เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เป็นเส้นทางเที่ยวชมป่าดิบเขาระดับสูง มีพรรณไม้เขตอบอุ่นผสมกับเขตร้อน โดยในช่วงหน้าหนาวจะพบกุหลาบพันปีออกดอกบานสะพรั่ง ส่วนในหน้าร้อนจะพบข้าวตอกฤาษี ระยะทางประมาณ 360 เมตร ใช้เวลาเดินชมประมาณ 20 นาที


          เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เป็นป่าดิบและทุ่งหญ้าที่ฟื้นฟูสภาพจากป่าที่ถูกทำลาย มีทิวทัศน์ของผาหินที่สวยงาม บนเส้นทางตระการตาด้วยกุหลาบพันปีเรียงราย ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินชมประมาณ 2 ชั่วโมง

งามสง่า...พันธุ์ดอกไม้ที่..ดอยตุง
          ดอยตุงอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ขึ้นไปทางเหนือจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 45 กิโลเมตร แต่เดิมเป็นเทือกเขาป่าเสื่อมโทรม เนื่องจากถูกชาวเขาตัดทำลาย กระทั่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีได้เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรเห็นและมีพระราชดำรัสว่า "ฉันจะปลูกป่าดอยตุง" จึงได้มีการจัดทำโครงการพัฒนาดอยตุงขึ้นในปี พ.ศ.2530ปลูกป่ากลับคืนสู่ธรรมชาติ ไม่นานดอยตุงก็คืนสภาพเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์อีกครั้ง และกลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของเชียงราย



ไอคอนดุ๊กดิ๊ก ภาพเคลื่อนไหว ภาพกลิตเตอร์  icon_dukdik_136 แต่ง hi5
          สวนแม่ฟ้าหลวง เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 บนพื้นที่ประมาณ 12 ไร่ ใกล้พระตำหนักดอยตุง จัดแต่แปลงไม้ดอกหลากหลายพันธุ์นับหมื่นดอก หมุนเวียนให้สวยงามไม่ซ้ำกันใน 3 ฤดู กลางสวนมีประติมากรรมเด็กที่ได้รับพระราชทานชื่อว่า "ความต่อเนื่อง" ปัจจุบันสวนแม่ฟ้าหลวงได้ขยายพื้นที่เพิ่มอีก 13 ไร่ เป็นสวนหินสวนน้ำ และสวนไม้ประดับ รวมเนื้อที่สวนแม่ฟ้าหลวงทั้งหมดเป็น 25 ไร่


          สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง ดอยช้างมูบ ปี พ.ศ. 2535 มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงได้สร้างสวนรุกชาติบนพื้นที่ 250 ไร่ บนดอยช้างมูบ โดยรวบรวมพรรณไม้พื้นเมืองและพรรณไม้ป่าหายากจากแหล่งต่าง ๆ ไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะต้นกุหลาบพันปีนอกจากนั้น ยังมีต้นนางพญาเสือโคร่งที่ให้ดอกออกใบหลากสีตลอดปี มีทางเดินลัดเลาะไปตามไหล่เขาสำหรับชมต้นไม้ดอกไม้ มีลานปิกนิก ศาลานั่งพักผ่อน ระเบียงชมวิวซึ่งมองเห็นดินแดนพม่า แม่น้ำโขง ไปจนถึงฝั่งลาว และน้ำผุดที่มีชื่อว่า "น้ำพระทัย"อันหมายถึงน้ำพระราชหฤทัยของสมเด็จย่าที่หลั่งรินไม่เหือดแห้งสู่ราษฎรผู้ยากไร้ เหมือนน้ำจากยอดดอยไหลสู่ที่ราบอย่างไร้พรมแดน 
มากล้ำ..พันธุ์พืช..ดอยอ่างขาง
          โครงการหลวงดอยอ่างขางพลิกฟื้นผืนป่าเสื่อมโทรมให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ทั้งยังเพิ่มพูนความงดงามด้วยไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว แต้มแต่งสีสันตระการตาให้ขุนเขา


          ดอยอ่างขางเป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อยู่ในเขตบ้านคุ้ม หมู่ที่ 5 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,400เมตร มีพื้นที่ใช้ในการทำวิจัยประมาณ 1,200 ไร่ เกิดขึ้นจากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเยี่ยมราษฎรชาวเขาบนดอย แล้วทอดพระเนตรเห็นการปลูกฝิ่นทำไร่เลื่อนลอยจึงมีพระราชประสงค์ให้ชาวเขาตามดอยต่าง ๆ ในภาคเหนือเลิกการปลูกฝิ่น ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท ซื้อที่ดินในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง แล้วโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ในปี พ.ศ. 2512 โดยหม่อมเจ้าภีศเดช  รัชนี เป็นองค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวง สถานีเกษตรหลวงอ่างขางใช้เป็นสถานที่วิจัยทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ไม้ผล พืชผัก และไม้ดอกเมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขาในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ

          เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ มี 2 เส้นทาง คือ เส้นทางเดินชมกุหลาบพันปี อยู่ด้านนอก ห่างจากปากทางเข้าสถานีฯ ประมาณ 4.5 กิโลเมตร โดยจุดที่สูงที่สุดคือเนินพันเก้า ซึ่งมีความสูงถึง 1,928 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางเท้าเพื่อขึ้นไปถึงจุดยอดเป็นระยะทาง 500-800 เมตร ซึ่งจะชมความงามของกุหลาบพันปีได้ในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ส่วนในช่วงเดือนอื่นก็ยังจะมีพรรณไม้แปลกตาให้ได้ชื่นชมอีกเช่นกัน เส้นทางศึกษาธรรมชาติของสถานีเกษตรหลวงอ่างขางนั้นกำหนดขึ้นบริเวณรอบสถานีฯ มีเส้นทางทั้งหมด 10 เส้นทางด้วยกัน และต้นไม้ที่ปลูกในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาตินั้น จะเป็นต้นไม้ที่นำเข้ามาจากไต้หวันทั้งหมด


          เส้นทางขี่จักรยานชมธรรมชาติ เป็นเส้นทางจากรีสอร์ตธรรมชาติอ่างขางเข้าเยี่ยมชมด้านในสถานีฯ ตลอดทางก็จะได้ชมธรรมชาติและแปลงเกษตรทดลอง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานจากสโมสรอ่างขางได้ หรือหากอยากเปลี่ยนบรรยากาศขี่ล่อ สัตว์ลูกผสมระหว่างม้าและลา ซึ่งแต่เดิมเป็นสัตว์พาหนะสำคัญของชาวเขาบนดอยแถบนี้ ก็สามารถติดต่อได้ที่สโมสรอ่างขางเช่นกัน

  ไอคอนดุ๊กดิ๊ก ภาพเคลื่อนไหว ภาพกลิตเตอร์  icon_dukdik_47 แต่ง hi5
งามล้ำค่า...ภูชี้ฟ้า 
          ภูชี้ฟ้า โต้ลมหนาวชมบรรยากาศยามอรุณรุ่งบนชะง่อนผาเสียดเมฆเหนือเทือกดอยสูง เป็นความประทับใจที่

          ภูชี้ฟ้าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่อิงฝั่งขวาและป่าแม่งาว ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าทอง หมู่ที่ 9 และบ้านร่มฟ้าไทย หมู่ที่ 10 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย มีเนื้อที่ประมาณ 2,500 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 1,200-1,628 เมตร จุดสูงสุดคือบริเวณจุดชมทิวทัศน์ กรมป่าไม้ได้มีประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2541


          ภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขาสูงทีสุดในเทือกเขาดอยผาหม่น สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,628 เมตร ด้านที่ติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นหน้าผาสูงชัน เป็นจุดชุมวิวที่สวยที่สุด ในฤดูหนาวจะมีทิวทัศน์สวยงามเป็นพิเศษ นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาค้างแรมบริเวณบ้านร่มฟ้าทอง ห่างจากจุดชมวิวประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก่อนจะเดินขึ้นภูชี้ฟ้าเพื่อไปชมทิวทัศน์ยามรุ่งอรุณในตอนเช้ามืด ซึ่งช่วงเดือนมกราคมบนเส้นทางจะพบดงนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งสวยงาม และในช่วงเดือนกุมภานธ์รอบภูชี้ฟ้าต้นเสี้ยวดอกขาวจะออกดอกบานเต็มเชิงเขาตระการตา


วิถีชีวิตล้ำคุณค่าที่....ปาย

          อำเภอปาย เมืองเล็กในโอบกอดขุนเขาสูงใหญ่น่าสนใจด้วยบรรยากาศอันสงบงดงามและรายละเอียดที่ต้องใช้เวลาในการสัมผัส  ปายเป็นอำเภอหนึ่งทางเหนือของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งขาวไทยและชาวต่างประเทศ ด้วยเสน่ห์ของเมืองน้อยกลางโอบล้อมของขุนเขา ท้องทุ่ง และสายน้ำ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและอากาศเย็นสบาย เมืองปายเป็นเมืองเล็ก ๆ กิจกรรมที่เหมาะสมที่สุดคือการเช่าจักรยานขี่ท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากในตัวเมืองที่ใช้เวลาไม่นานก็เที่ยวได้ทั่วแล้ว ยังมีเส้นทางอื่นที่สวยงามและน่าสนใจ คือ


          เส้นทางน้ำตกหมอแปง ไปตามถนนลาดยางผ่านโรงพยาบาลปาย บนเส้นทางมีวัดหัวนา งดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยใหญ่ และวัดน้ำฮู ซึ่งประดิษฐานพระเจ้าอุ่นเมือง พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ภายในพระเศียรกลวง เปิดออกได้ และมีน้ำซึมออกมาตลอดเวลา เชื่อกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ เลยต่อไปเป็นหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ บ้านสันติชล ผ่านหมู่บ้านลีซอเป็นถนนดินไปสุดทางที่น้ำตกหอมแปง น้ำตกขนาดเล็ก บรรยากาศร่มรื่นด้วยแมกไม้  เส้นทางพระธาตุแม่เย็น-น้ำพุร้อนท่าปาย เริ่มจากสะพานราษฎร์ดำรงตรงไปประมาณ 2 กิโลเมตรถึงบ้านแม่เย็น มีบันไดขึ้นไปยังวัดพระธาตุแม่เย็น บนยอดเขาเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นเมืองปายได้ทั้งเมือง โดยจะงดงามเป็นพิเศษในยามพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก บนเส้นทางยังมีศูนย์วัฒนธรรมปายที่จัดให้มีการแสดงทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ทุกวันเสาร์ลัดเลาะไปตามทางขึ้นลงเขาอีกประมาณ 5 กิโลเมตร เป็น ปางช้าง บริการนั่งช้างเที่ยวป่า ยังมีบ่อน้ำพุร้อนท่าปาย ธารน้ำร้อนท่ามกลางร่มเงาแมกไม้ จากบ่อน้ำร้อนออกมา 2 กิโลเมตร จะออกสู่ทางหลวงหมายเลข 1095 เลี้ยวขวาจะพบสะพานเหล็กสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บนทางกลับเข้าเมืองมีกองแลน หรือ         ปายแคนยอน

ไอคอนดุ๊กดิ๊ก ภาพเคลื่อนไหว ภาพกลิตเตอร์  icon_dukdik_62 แต่ง hi5
          เส้นทางวงรอบบ้านเวียงเหนือ-บ้านแม่ของ เริ่มจากสะพานราษฎร์ดำรง ข้ามสะพานไปเลี้ยวซ้ายตรงทางแยก เป็นเส้นทางที่ไม่มีสถานที่สำคัญ แต่ตลอดเส้นทางสวยงามด้วยบรรยากาศสองฟากฝั่ง ทิวทัศน์ของท้องทุ่ง แม่น้ำ และทิวเขา เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการขี่จักรยานท่องเที่ยวระยะไกล

          หนาวนี้...อย่าลืมออกมากอดประเทศไทยให้หายหนาว...กันนะคะ วันนี้น้องเมย์ขอไปเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเตรียมตัวออกเดินทางไปกอดเมืองไทย..ดีกว่า... ไว้พบกันใหม่นะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น